8 มิถุนายน 2554

สามเกลอฮีตคือข่าวร้ายสำหรับอีก 29 ทีมใน NBA
07/06/2011 13:25:19 น.


     นั่งดู ฮีตแข่งเกมสามของซีรี่ส์ชิง NBA กับ แมฟเวอริกส์แล้วผมเห็นแววน่าหวาดเสียวของคู่แข่งทั้งลีกไปอีกสามปีข้างหน้าเลย


ช่วงครึ่งแรก ไมอามี่เล่นกันสวยมาก ส่งบอลดี โจมตีใต้แป้นดุดัน ดีเวย์น เหว็ด กลับมาโชว์ฟอร์มน่ากลัวฉีกเกมป้องกัน แมฟส์ เป็นว่าเล่น ทั้งการเลี้ยงบอลงามๆ หรือการโพสต์สวยๆ บางทีก็จ่ายให้ เลอบรอน เจมส์ เล่นไม่ก็ส่งให้เพื่อนร่วมทีมกดสามแต้ม

แต่พอนำห่าง ฮีตก็เริ่มติดนิสัยขี้เกียจเหมือนที่เป็นมาบ่อยๆ ระหว่างฤดูกาล

หันมาเล่นบาสชายเดี่ยว ไม่ค่อยยอมบุกตะลุย ยิ่งสิบนาทีท้ายเกมน่าเกลียดมาก ไม่ได้ฟรีโทรว์ซักครั้ง เข้าไปชู้ตระยะไม่เกินห้าฟุตลูกเดียว กลายเป็นทีมที่เอาแต่กระโดดยิงเข้าว่า

คริส บอสช์ กลับมาบ้านเกิดอุตส่าห์โดนปั้นหลายหนแต่เล่นไม่ออก เคาะบอลสลัด ทายสัน แชนด์เลอร์ ไม่ได้ ฝืนชู้ตก็พลาดจนหมดความมั่นใจ

กระทั่งมาถึงควอร์เตอร์สี่ บอสช์กลับติดเครื่อง ได้ 7 แต้มรวมทั้ง ระยะยาก 15 ฟุตจากเบสไลน์ ก่อนหมดเวลา 37 วินาที มันน่าจะเป็นลูกสำคัญสุดในอาชีพของเขาทีเดียว อดีตขวัญใจชาวเมืองดัลลัส สมัยมัธยมยังไม่เคยมาชนะที่บ้านเกิด ตลอดแปดหนก่อนหน้า บทจะชนะก็มาเกิดเอาเกมเดิมพันสูงขนาดนี้

ในประวัติศาสตร์รอบชิงตั้งแต่เริ่มระบบ 2-3-2 ปี 1985 เวลาซีรี่ส์เสมอกัน 1-1 ฝ่ายที่ชนะเกมสามจะกลายเป็นแชมป์ทั้ง 11 หนแล้ว

มาริโอ แชลเมอร์ส กับ อูโดนิส ฮัสเลม สองตัวสำรอง ฮีต น่าประทับใจทีเดียว คือทำอย่างที่โดนมองว่าควรทำได้ เปิดว่างก็ชู้ตไม่พลาด คึกคัก ไล่รีบาวด์บอล แต่พวกเขายังเป๋เหมือนกัน ทั้ง แชลเมอร์ส เทิร์นโอเวอร์ และ ฮัสเลมเสียฟาวล์ ปล่อยดัลลัส ลดช่องว่างจากหกมาเหลือสองตอนในเวลาแค่ 18 วินาที

ฮีต เกือบพลาดเหมือนที่ ธันเดอร์ พลาดรอบก่อนหน้าเลย ดันเสียฟาวล์ โนวิตซกี้ ขณะอยู่ห่างห่วงตั้ง 90 ฟุต สองหน

เรียกว่าท้ายเกม พวกเขาทำทุกอย่างที่สามารถแพ้เกมด้วยซ้ำ ฟาวล์อย่างไม่ควรฟาวล์, เทิร์นโอเวอร์, ฝืนชู้ต มันเหมือนกับ นิทานอีสป เรื่องเต่ากับกระต่าย คือ ฮีตเหมือนกระต่าย นำสบายๆ แล้วชอบหลับ แต่พวกเขาตื่นทันเวลา มาเล่นเพลย์สวยๆ สามหน บุกไปครั้งนึง แล้วก็ป้องกันเหนียวอีกสองเพลย์

พวกเขาขอชนะอีกสองเกมจะบรรลุเป้า ซึ่งคนอเมริกันจำนวนมากยังหมั่นไส้ไม่หาย นี่ขนาดเพิ่งรวมตัวกันปีแรก ฟอร์มดูกระท่อนกระแท่นมาก ชนะเพลย์ออฟ 14 หนแล้วก็จริงแต่มีแค่หกหนชนะแบบสองหลัก

ไม่ต้องอื่นไกลดูจากเพลย์ตัดสินเกมก็ได้ เหว็ดซึ่งเครื่องร้อน พาบอลขึ้นมา ได้เจมส์ช่วยสกรีน แต่ติดกับดัก แทนที่จะพยายามลุยเข้าไป เขาตัดสินใจส่งให้ เจมส์ ซึ่งก็มีพื้นที่ว่างแถวหัวกระโหลก

เจมส์ ก็ไม่ฝืนลุยหรือยิงเอง จ่ายให้ บอสช์ที่เปิดว่างริมเส้น ซึ่งตามสถิติแล้ว บอสช์ ยิงแบบนี้ลงแค่ 45 เปอร์เซนต์เอง

ฮีตไม่ได้บุกอย่างเนียน แค่อดทนและรอจังหวะยังชนะเกมเลย เหมือนพวกเขากำลังหาสูตรลงตัวอยู่

แฟนไมอามี่คงเสียดายว่า เกมก่อนไม่น่าหัวทิ่มทั้งๆ นำห่าง 15 แต้ม ก่อนหมดเวลา 7 นาทีเลย ไม่งั้นคงลอยลำ 3-0 กันแล้ว

ลองนึกดูว่าถ้าซีซั่นหน้าและซีซั่นต่อจากนั้นและอีกหนึ่งซีซั่น ซึ่งสามเกลอจะอยู่ด้วยกันหนสุดท้ายของสัญญาที่เซ็น เกิดเล่นกันพร้อมเพรียงตลอด 48 นาที กว่าที่เป็นอยู่หละ?

มีสถิตินึงน่าสนใจของเกมป้องกันไมอามี่ ด้วย หลังจาก เดิร์ก โนวิตซกี้ ทำ 15 จาก 34 แต้มของเขาช่วงควอร์เตอร์สุดท้าย

มันคือหนแรกในเพลย์ออฟที่ ฮีตโดนคู่แข่งทำระดับ 30 แต้มใส่ ในประวัติศาสตร์รอบชิง NBA แล้วเคยมีแค่ เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส ปี 82 อีกรายเดียวซึ่งไม่ปล่อยคู่แข่งทำระดับ 30 แต้มยาวนานกว่า 17 เกมในเพลย์ออฟหนเดียว

สรุปผลพร้อมโปรแกรมรอบชิง NBA เวลาประเทศไทย(ทรูสปอร์ต 3 ถ่ายทอดสดทุกคู่)
เกม 1- พุธที่ 1 มิถุนายน ฮีตชนะ 92-84 นำ 1-0 เกม
เกม 2 - ศุกร์ที่ 3 มิถุนายน แมฟส์ชนะ 95-93 เสมอ 1-1 เกม
เกม 3 - จันทร์ที่ 6 มิถุนายน ฮีตชนะ 88-86 นำ 2-1 เกม
เกม 4 - พุธที่ 8 มิถุนายน @ ดัลลัส เวลา 0800 น.
เกม 5 - ศุกร์ที่ 10 มิถุนายน @ ดัลลัส เวลา 0800 น.
เกม 6* - จันทร์ที่ 13 มิถุนายน @ ไมอามี่ เวลา 0700 น.
เกม 7* - พุธที่ 15 มิถุนายน @ ไมอามี่ ฮีต เวลา 0800 น

ที่มา : สยามสปอร์ต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น